เช็กอาการคนท้อง – ท้องไหม สังเกตได้จากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

หากคุณกำลังเป็นหนึ่งคนที่สงสัยหรือรู้สึกว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่นั้น วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ ให้คุณลองมาเช็กจากอาการที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งในเรื่องของอาการที่แสดงออก อารมณ์ และการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย ก่อนอื่นเราลองมาดูสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์กันก่อนค่ะ ว่าคุณอยู่ในอาการของคนท้องเหล่านี้อยุ่บ้างมั้ย….

สัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ⁽¹⁾

• สำหรับผู้หญิงบางคนที่มีรอบเดือนปกติทุกเดือน สัญญาณการตั้งครรภ์ที่เร็วที่สุดและน่าเชื่อถือมากที่สุดคือการที่คุณมีช่วงประจำเดือนที่พลาดไปหรือคลาดเคลื่อน
• ผู้หญิงตั้งครรภ์บางครั้ง จะมีเลือดออกคล้ายกับช่วงที่มีประจำเดือนแบบกระปิดกระปอย เหมือนช่วงวันท้าย ๆ ของประจำเดือนนั่นเองค่ะ คุณสามารถสังเกตเห็นได้โดยจะมีเลือดแค่บางจุดหรือเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเรียกว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก” (Implantation bleeding)

อาการอื่น ๆ ของการตั้งครรภ์ในช่วงต้น มีดังต่อไปนี้: ⁽¹⁾

แน่นอนค่ะว่า ผู้หญิงทุกคนย่อมมีอาการที่แตกต่างกันออกไป และไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะสังเกตอาการเหล่านี้ได้ทั้งหมด แต่คุณก็สามารถเช็กอาการได้เช่นกันนะคะ อาทิเช่น:

• รู้สึกไม่สบายในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น คุณอาจจะรู้สึกไม่สบาย คลื่นไส้ อาเจียน อาการเหล่านี้เรียกว่าอาการแพ้ท้อง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ

  

• อาการแพ้ท้องสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่เมื่อมีการตั้งครรภ์ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ ซึ่งหากอาการเหล่านี้ยังคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์ คุณก็สามารถสังเกตได้ว่าคุณอาจกำลังตั้งครรภ์อยู่ค่ะ

• ผู้หญิงบางคนอาจมีภาวะของอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง หรือ Hyperemesis Gravidarum ซึ่งภาวะร้ายแรงนี้จะทำให้คุณอาเจียนอย่างรุนแรงถึงขั้นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ค่ะ
• การรู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลีย แน่นอนค่ะว่าทุกคนมีความรู้สึกเหนื่อยล้า แต่เมื่ออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ โดยคุณสามารถสังเกตได้ในช่วง 12 สัปดาห์แรกที่คุณจะรู้สึกเหนื่อย หรือ อ่อนเพลียตลอดเวลา นอนไม่หลับ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายของคุณ ในช่วงเวลานี้ อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ไม่สบายอารมณ์ อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่ายด้วยล่ะค่ะ แต่ความรู้สึกเหนื่อยนี้ถือเป็นเรื่องปกติในการตั้งครรภ์ค่ะ
• เจ็บหน้าอกในการตั้งครรภ์ระยะแรก หน้าอกของคุณอาจใหญ่ขึ้นและรู้สึกเซนซิทีฟได้ง่าย เช่นเดียวกับที่อาจเกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือน นอกจากนี้ยังอาจทำให้คุณรู้สึกเสียว ๆ ซ่า ๆ อีกด้วยค่ะ
• คุณจะสังเกตได้ถึงเส้นเลือด ที่มองเห็นชัดขึ้นและหัวนมอาจดำขึ้น หรือตั้งยอดขึ้นมากกว่าปกติ
• การฉี่บ่อยขึ้นบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ได้ค่ะ โดยเฉพาะการที่คุณอาจรู้สึกว่าต้องฉี่บ่อยกว่าปกติรวมทั้งในเวลาตอนกลางคืน
• ท้องผูก

• มีตกขาวมากขึ้น แต่ไม่มีอาการเจ็บหรือระคายเคือง
• รสชาติ และ กลิ่นที่ต่างไป คุณจะสังเกตเห็นได้ว่าในช่วงตั้งครรภ์ช่วงแรกนั้น คุณอาจพบว่าคุณไม่ชอบอาหารหรือเครื่องดื่มบางอย่างที่คุณเคยชอบเอาซะมาก ๆ แล้วจู่ ๆ รสชาติเอย กลิ่นเอย ก็พลันหายไป กลายเป็นไม่เพลิดเพลินอย่างเก่า หรือบางคนอาจรับรสชาติแปลก ๆ ในปาก ซึ่งผู้หญิงหลายคนอธิบายว่าเหมือนรับรสของโลหะยังไงยังงั้นเลยค่ะ
• คุณมีความอยากแปลก ๆ เช่น อยากกินของที่ไม่เคยกินมาก่อน หรือ อยากกินสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาก ๆ หรือมีความอยากกินของใหม่ ๆ แต่ในขณะที่บางคนถึงกลับหมดความสนใจในอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดทั้งที่คุณเคยชอบมันเหลือเกิน เช่น ชา กาแฟ หรืออาหารที่มีไขมัน
• สำหรับคนที่สูบบุหรี่ คุณจะสังเกตเห็นเลยค่ะว่า คุณหมดความสนใจในการสูบบุหรี่เอาซะดื้อ ๆ
• คุณมีความรู้สึกไวต่อกลิ่นมากกว่าปกติ ตัวอย่างเช่น กลิ่นอาหาร หรือ ขณะการปรุงอาหาร

เป็นไงกันบ้างคะ ข้อมูลเบื้องต้นที่คุณสามารถเช็กอาการว่าคุณตั้งครรภ์หรือไม่ สำหรับบางคนที่เมื่อลองเช็กอาการข้างต้นดูแล้ว อาจจะไม่ได้สังเกตเห็นในการเปลี่ยนแปลงของตัวเองมากนัก เราก็ยังมีวิธีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นนั่นก็คือ “การทดสอบการตั้งครรภ์” นั่นเองค่ะ

การทดสอบการตั้งครรภ์ ⁽²⁾

ในบางครั้ง คุณอาจพลาดช่วงเวลาหนึ่งและเพิ่งมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ซึ่งคุณสามารถทำการทดสอบการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่วันแรกของช่วงที่ประจำเดือนคุณคลาดเคลื่อนไปได้เลยค่ะ หากคุณไม่ทราบว่าจะถึงกำหนดระยะเวลาแล้วหรือยัง ให้ทำการทดสอบอย่างน้อย 21 วันหลังจากที่คุณมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายโดยไม่มีการป้องกันได้เลยค่ะ การทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ทำการทดสอบได้ก่อนที่ประจำเดือนคุณจะพลาดไป ซึ่งบางยี่ห้อสามารถทดสอบได้ตั้งแต่ 8 วันหลังจากการตั้งครรภ์ ซึ่งคุณสามารถทำการทดสอบการตั้งครรภ์ได้ง่าย ๆ กับตัวอย่างปัสสาวะได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเป็นตอนเช้าก็ได้นะคะ ซึ่งคุณสามารถซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ได้จากเภสัชกรหรือในซุปเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง ซึ่งชุดทดสอบการตั้งครรภ์เหล่านี้ สามารถทำให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่รวดเร็วและคุณก็สามารถทำการทดสอบได้ด้วยตนเองแบบเป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัวได้อีกด้วยล่ะค่ะ

การทดสอบการตั้งครรภ์ทำงานอย่างไร? ⁽²⁾

หลายคนอาจสงสัยว่าการทดสบอการตั้งครรภ์มันจะให้ผลลัพธ์ได้จริงหรือ? แล้วมันใช้ทฤษฎีไหนในการทำงานเพื่อบอกให้เรารับรู้ว่า เรากำลังตั้งครรภ์จริง ๆ การทดสบอการตั้งครรภ์ทั้งหมดจะตรวจพบฮอร์โมนตัวหนึ่งที่ชื่อว่า HCG หรือ Human Chorionic Gonadotrophin ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะสร้างจากรกหลังจากที่มีตัวอ่อนหรือทารกมาฝังตัวนั่นเองค่ะ จะเริ่มผลิตประมาณ 6 วันหลังจากการปฏิสนธิ ซึ่งในชุดทดสอบการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะมาในกล่องที่มีแท่งยาว ๆ 1 – 2 อัน จากนั้นคุณก็ปัสสาวะลงบนแท่งทดสอบและผลลัพธ์ก็จะปรากฎบนแท่งนั้นในไม่กี่นาที การทดสอบทั้งหมดแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนั้นคุณจึงควรอ่านคำแนะนำอย่างละเอียดนะคะ

เมื่อเช็กทั้งอาการของการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายอาจไม่ทำให้คุณมั่นใจว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ การใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือมากทีเดียวสำหรับข้อบ่งชี้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ค่ะ แต่หากคุณได้รับผลลบ แต่ก็ยังมั่นใจอยู่นะ ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ คุณอาจจะรออีกสัก 2- 3 วันแล้วค่อยลองทดสอบใหม่อีกครั้ง หรือหากเอาให้มั่นใจเลยแล้วล่ะก็ คุณก็สามารถปรึกษาหรือได้รับการตรวจโดยกุมารแพทย์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำมาก ๆ อีกวิธีหนึ่งค่ะ

Resources :
(1) Signs and symptoms of pregnancy
(2) Doing a pregnancy test